บาคาร่า

ความเป็นมาของไพ่บาคาร่าโดยตรงเกมคาสิโนที่สร้างกำไรดีที่สุด!!

ประวัติบาคาร่า คำว่า บาคาร่า ( BACCARAT ) เป็นเกมไพ่ชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งคำว่า BACCARAT เป็นคำที่มาจาก ภาษาฝรั่งเศษ โดยจะมีรากศัพท์คือ Baccara ซึ่งก็เป็นคำที่มาจาก ภาษาอิตาลี โดยจะมีความหมายว่า “ศูนย์” ซึ่งจะเป็นการสื่อถึง แต้มศูนย์ คือ แต้มไพ่ที่มีมากที่สุดในการเล่นบาคาร่านั่นเอง ต้นกำเนิด หรือ ความเป็นมาของบาคาร่า เราก็สามารถสันนิษฐานได้ว่า มีความเป็นมาจากประเทศอิตาลี ซึ่งก็คิดค้นขึ้นโดย เฟลิกซ์ ฟาลกูยเรน ซึ่งเป็นนักพนันชาวอิตาลี ในช่วงปลายของศตวรรษที่ 15 และ ได้มีการนำ เกมไพ่บาคาร่า นี้เข้ามายังประเทศฝรั่งเศส ในสมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 8 ซึ่งเป็นกษัตริย์ของฝรั่งเศส เมื่อได้นำเข้ามาสู่ประเทศฝรั่งเศสแล้ว ได้มีผ๔เชี่ยวชาญบางกลุ่ม ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับ เกมไพ่บาคาร่า ว่าเนื่องจากเกมไพ่บาคาร่านั้นมีโครงสร้างที่มีความคล้ายคลึงกับ เกมไพ่แบล็คแจ๊ค ของทางประเทศฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก 

ไพ่บาคาร่า

ประวัติเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์ในยุคปัจจุบัน! 

จากประวัติบาคาร่าในยุคอดีต จนมาถึงยุคสมัยปัจจุบัน ทำให้เราได้ทราบกันว่า เกมไพ่บาคาร่านี้ จะมีความคลายคลึงกับเกมป๊อกเด้งชองไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งจะสามารถพบเห็นได้จากคาสิโนแถบเอเชีย โดยปัจจุบันนี้ บาคาร่าได้มีการพัฒนามาเป็นเกมที่สามารถเล่นผ่านการถ่ายทอดสดได้จากทางอินเตอร์เน็ต ที่เขาเรียกกันว่า บาคาร่าออนไลน์ นั่นเอง ซึ่งจากที่เกมไพ่บาคาร่าได้รับความนิยมกันอยู่แล้ว ยิ่งได้มีการพัฒนามาอยู่ในระบบออนไลน์นี้ ยิ่งทำให้เกมบาคาร่านี้ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เพราะสามารถเข้าใช้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือได้เลยทันที สะดวกสบายแก่การใช้บริการเป็นอย่างมาก 

วิธีการเล่น บาคาร่าโดยตรง 

ในการเล่น บาคาร่าdg นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือ Player (ผู้เล่น) และ Banker (เจ้ามือ) ซึ่งเจ้ามือจะใช้ไพ่สำรับ 52 ใบ จำนวน 6 – 8 สำรับต่อแถว เพื่อให้การเล่นเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับการเล่นนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการดึงไพ่จากสำรับมาวางไว้ในแต่ละฝั่งครั้งละ 2 ใบ โดยที่ไพ่ของฝ่ายใดมีแต้มมากกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะไป โดยแต้มสูงสุดของเกมนี้คือ เลข 9 และน้อยสุดคือเลข 0 โดยใช้เลขสุดท้ายของแต้มรวมเป็นตัววัดว่าฝ่ายไหนจะมากกว่ากัน แต่ก็จะมีกรณีที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีแต้มที่น้อยกว่ากำหนด จะมีการจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบเพื่อมาตัดสินในเกมนั้น เพื่อหาว่าฝ่ายไหนจะได้แต้มมากกว่ากัน  

สำหรับการวางเดิมพันนั้น นักพนันสามารถเลือกวางเดิมพันว่าฝ่าย Player (ผู้เล่น) หรือ Banker (เจ้ามือ) ฝ่ายไหนจะมีแต้มมากกว่ากัน นอกจากนั้นแล้วยังมีการลงเดิมพัน Tie (เสมอ) ไว้เป็นตัวเลือกเสริมสำหรับนักพนันอีกด้วย ถ้าหากแต้มออกมาเสมอทั้ง 2 ฝ่าย ใครที่ลงเดิมพันว่าเสมอ จะมีอัตราจ่ายที่สูงกว่า เป็นรางวัลพิเศษอีกด้วย และเงินรางวัลที่ได้ก็ถือว่าสามารถตั้งตัวกันได้เลยทีเดียว 

กฎ กติกา บาคาร่าที่ควรทราบ ต้องรู้ก่อนลงมือเล่น 

สำหรับกติกาที่ควรรู้อย่างแรกเลย คือ กติกาการนับแต้ม ซึ่งการนับแต้มของบาคาร่านั้น จะต้องทำแต้มไพ่ในมือของตัวเองให้ใกล้กับ 9 แต้มมากที่สุด ถึงจะเป็นฝ่ายชนะ โดยจะสามารถจั่วไพ่เพิ่มได้คนละ 1 ใบเท่านั้น สำหรับการนับแต้มไพ่จะมีวิธีการนับ ดังนี้ 

  • A = 1 แต้ม 
  • 2,3,4,5,6,7,8,9 = นับตามหน้าไพ่ 
  • 10,J,Q,K = 10 แต้ม 

ไพ่บาคาร่า

กติกาการจั่วไพ่บาคาร่าของทั้ง2ฝั่ง 

สำหรับกติกาการจั่วไพ่ ของผู้เล่นผ่าย Player และ Banker ก็จะมีกติกาที่ไม่เหมือนกัน โดยจะมีกติกา ดังนี้ 

กติกาของผู้เล่นฝั่ง Banker 

  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 3 และแต้มของฝั่งผู้เล่น เป็น 1,2,3,4,5,6,7,8,9,0 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 
  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 4 และแต้มของฝั่งผู้เล่น เป็น 2,3,4,5,6,7 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 
  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 5 และแต้มของฝั่งผู้เล่น เป็น 4,5,6,7 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 
  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 6 และแต้มของฝั่งผู้เล่น เป็น 6,7 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 
  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 7 ให้อยู่ (ไม่ต้องจั่วเพิ่ม) 
  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 8 และ 9 เรียกว่าป๊อก 

กติกาของผู้เล่นฝั่ง Player 

  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 1,2,3,4,0 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 
  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 6,7 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 
  • ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 8 และ 9 คือป๊อก ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม 

บาคาร่า

วิธีการอ่านเค้าไพ่ บาคาร่าdg เทคนิคที่ควรศึกษาเพื่อสร้างกำไร 

  1. มังกร ใช้เรียก เค้าไพ่ ที่มีลักษณะยาว ดังนั้นเป็นเค้าไพ่ที่สังเกตุง่ายที่สุดเพราะว่ามังกร ก็คือการออกไพ่ในลักษณะที่เจ้ามือหรือผู้เล่นชนะติดต่อกัน อย่างน้อย 4-5 ครั้ง การใช้สูตรก็คือแทงตามไปเรื่อยๆไปจนกว่าหน้าไพ่จะเปลี่ยน เช่น P-P-P-P ไม้ถัดไปให้เลือก    
  2. เค้าไพ่ปิงปอง, เค้าไพ่ PBPB ใช้เรียกเมื่อเกิดการออกไพ่สลับกันแพ้ชนะไปมาระหว่าง เจ้ามือ กับ ผู้เล่น เหมือนกับการตีปิงปอง ลักษณะการเล่นให้แทงฝ่ายตรงข้าม เช่น P-B-P-B ตาต่อไปให้เลือก    
  3. ไพ่ลูกคู่ มีความคล้ายครึงกับปิงปองเป็นอย่างมากแต่จะเป็นออกไพ่ เบิ้ลชนะ 2 ครั้งแล้วเปลี่ยนออกมาเป็นอีกฝ่ายชนะสองครั้งสลับกันไปมาให้รอจังหวะเบิ้ลสองแล้วแทงสวน เช่น P-P-B-B ตาต่อไปให้แทง P  
  4. ไพ่สองตัวตัด เป็นอีกหนึ่งเค้าไพ่ที่ออกบ่อยในการเล่นบาคาร่า สังเกตุง่ายๆ คือ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ2ครั้งติดแล้วจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายตรงข้ามในตาถัดไปรอจังหวะแทงสวน เช่น B-B-P-B-B ตาถัดไปให้แทง P  
  5. ไพ่สามตัวตัด จะเป็นการออกไพ่ในเชิงที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอาชนะ 3 ครั้งติดและจะเปลี่ยนไพ่ในไม้ที่ 4 การรอจังหวะแทงก็รอให้ครบ 3 ไม้แล้วเปลี่ยนเป็นแทงฝ่ายตรงข้าม เช่น B-P-P-P ตาถัดไปให้เลือกแทง B  
  6. ไพ่ตัวติด จะคล้ายกับไพ่มังกรแต่จะออกไพ่ในลักษณะการชนะติดต่อกันของสองฝ่ายในปริมาณเท่าๆกัน แต่การวางเดิมพันจะมีแนวทางคือรอให้ออก 2 ครั้งแต่แทงตาม 1 ครั้งดังนี้คือ P-P-P-P-B-B ตาต่อไปให้แทง B  
  7. ไพ่ตัวหลุด ในที่นี้จะมองค่อนข้างยากให้ท่านสังเกตุว่าเมื่อมีการ P จะออกแค่ 1 ครั้งแล้วเปลี่ยนไพ่ หลักการง่ายๆคือรอจังหวะมีตัวหลุดแล้วตาถัดไปต้องแทงฝ่ายตรงข้าม เช่น B-B-P-B-B-B-P ตาต่อไปให้แทง B รีวิ 

บาคาร่า

สรุปสุดท้ายความเป็นมาของเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์ 

เห็นได้ว่าเกมไพ่บาคาร่ามีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมากมาตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นมาในรูปแบบออนไลน์ที่สร้างความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นโดยเราไม่ต้องเดินทางไปเล่นถึงคาสิโนเลยและสมัยนี้ก็ยังมีเทคนิคมากมายในการเล่นเช่นวิธีการอ่านเค้าไพ่เป็นต้นถ้าอ่านเเล้วรู้สึกสนใจเกมไพ่บาคาร่ายอดฮิตอันดับ1ก็คลิ๊กที่ลิ้งค์ Dream gaming เพื่อสมัครสามชิกได้เลยทางเรามีบริการฝากถอนระบบออโต้ตลอด24ช.ม